ก่อนอื่นเรามาลองดูคำแปลของ 4 คำหลังกันก่อนดีกว่าค่ะ

this แปลว่า นี่

these แปลว่า เหล่านี้

that แปลว่า นั่น

those แปลว่า เหล่านั้น

     เมื่ออ่านคำแปลแล้ว พอจะเดาได้ไหมคะ ว่าแต่ละคำนั้น ควรใช้อย่างไร ถ้ายังไม่แน่ใจ เรามาลองดูหลักการใช้กันเลยค่ะ 

     ทั้ง 4 คำนี้ เป็นคำนำหน้านามชี้เฉพาะ (Demonstrative Determiner) ซึ่งคำเหล่านี้ ใช้เพื่อบ่งบอกว่าคนหรือสิ่งต่าง ๆ นั้น อยู่ใกล้หรืออยู่ไกลผู้พูด

this และ that ใช้กับคำนามเอกพจน์ (หนึ่งสิ่ง) เช่น this apple

these และ those ใช้กับคำนามพหูพจน์ (สองสิ่งขึ้นไป) เช่น these apples

เราใช้ this และ these เพื่อพูดถึงสิ่งของที่อยู่ใกล้ตัวผู้พูด 

และ that และ those เพื่อพูดถึงสิ่งของที่อยู่ไกลตัวผู้พูด

     พอจะเข้าใจการใช้ 4 คำนี้มากขึ้นไหมคะ ถ้าอ่านแล้วยังงง ๆ กันอยู่ อย่างนั้นเรามาลองดูตัวอย่างประโยคการใช้จริง ที่ใช้คู่กับ How much …? ที่แปลว่า มีราคาเท่าไหร่ จากตัวอย่างประโยคพร้อมรูปประกอบด้านล่างกันเลยค่ะ

1. How much is this apple? แอปเปิลลูกนี้ราคาเท่าไหร่ครับ

    It's 35 baht. 35 บาทค่ะ

ข้อนี้เราใช้ this เพราะแอปเปิลอยู่ใกล้ตัวผู้ที่ถามราคาและมีเพียง 1 ผลเท่านั้น และผู้ตอบใช้คำว่า it ซึ่งเป็นคำสรรพนาม (Pronoun) เอกพจน์ เพื่อแทนแอปเปิล 1 ผลค่ะ ส่วนคำกริยา (Verb) เมื่อประธานเป็นคำนามเอกพจน์ (Singular Noun) เราจึงใช้ is นั่นเองค่ะ 

2. How much are these apples? แอปเปิลเหล่านี้ราคาเท่าไหร่ครับ

    They're 70 baht. 70 บาทค่ะ

ส่วนข้อนี้เราใช้ these เพราะแอปเปิลอยู่ใกล้ตัวผู้ที่ถามราคาและมี 2 ผล และเมื่อมีแอปเปิล 2 ผล ถือเป็นพหูพจน์ อย่าลืมเติม s ต่อท้ายนะคะ เราจึงใช้ they ซึ่งเป็นคำนามพหูพจน์ (Plural Noun) ส่วนคำกริยา (Verb) เมื่อประธานเป็นพหูพจน์ เราจึงใช้เป็น are นั่นเองค่ะ 

3. How much is that apple? แอปเปิลลูกนั้นราคาเท่าไหร่ครับ

    It's 35 baht. 35 บาทค่ะ

ข้อนี้เราใช้ that เพราะแอปเปิลอยู่ไกลจากตัวผู้ที่ถามราคาและมีเพียง 1 ผล ผู้ตอบใช้ว่า it เนื่องจากมีแอปเปิล 1 ผล จึงใช้คำสรรพนาม (Pronoun) ที่เป็นเอกพจน์ ส่วนคำกริยา (Verb) เมื่อประธานเป็นคำนามเอกพจน์ (Singular Noun) จึงใช้ is ค่ะ

4. How much are those apples? แอปเปิลเหล่านั้นราคาเท่าไหร่ครับ

    They're 100 baht. 100 บาทค่ะ

สำหรับตัวอย่างข้อสุดท้าย ใช้ those เพราะแอปเปิลอยู่ไกลจากตัวผู้ที่ถามราคาและมี 3 ผล และเมื่อมีแอปเปิล 3 ผล จึงเติม s ต่อท้าย ให้เป็นคำนามพหูพจน์ (Plural Noun) ใช้คำสรรพนาม (Pronoun) เป็น they ส่วนคำกริยา (Verb) ใช้ are เพราะใช้กับประธานซึ่งเป็นคำนามพหูพจน์เช่นเดียวกับข้อ 2 เลยค่ะ

     เป็นอย่างไรกันบ้างคะ เข้าใจกันไหมเอ่ย ไม่ยากเลยใช่ไหมคะ ลองนำตัวอย่างประโยคเหล่านี้ไปปรับใช้ในสถานการณ์จริงกันดูนะคะ สำหรับวันนี้ มีเนื้อหาเพียงเท่านี้ค่ะ ไว้เจอกันใหม่ในโอกาสหน้า สวัสดีค่า